ตร.เชิญสองสามีภรรยาลูกชายเจ้าของบ้านไฟปริศนาสอบเพิ่ม-ม.ทักษิณถอนกล้องหลังไม่พบไฟเกิดขึ้น


จากกรณีบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เกิดไฟลุกไหม้เสื้อผ้าและข้าวของภายในบ้านขึ้นมาเองโดยไม่ทราบสาเหตุ มากกว่า 200 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา ท่ามกลางความตกใจของคนในครอบครัวและชาวบ้าน ต่อมามีการเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดของรายการทีวีช่องหนึ่ง ที่อ้างว่าติด
ตั้งอยู่ภายในบ้านเผยให้เห็นภาพในลักษณะเหมือนหญิงสาวคนในบ้าน เป็นคนจุดไฟเผาเศษผ้า จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ต่อมาตำรวจสภ.ตะโหมด เรียกตัวเจ้าของบ้านพร้อมลูกชายและสะใภ้ไปสอบสวนและทำประวัติไว้ ส่วนผวจ.พัทลุง ระบุหากมีหลักฐานว่าเป็นผีมือคนอาจถูกดำเนินคดี ฐานหลอกลวงประชาชน ก่อให้เกิดความวุ่นวาย ขณะที่อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ ม.ทักษิณ จ.สงขลา นำนักศึกษาลงพื้นที่ติดตั้งกล้องวงจรปิด 11 จุดทั่วบ้าน เพื่อคลี่คลายว่าเกิดจากธรรมชาติหรือเป็นฝีมือมนุษย์นั้น


 ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 1 พ.ค. ที่สภ.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง พ.ต.ท.เจริญ พุ่มนวล รอง ผกก.สส.สภ.ตะโหมด ได้เชิญตัวนายกิตติยา ศักดิ์หวาน อายุ 32 ปี และนางวันทนา สิงห์เรือง อายุ 35 ปี สองสามีภรรยา ลูกชายและลูกสะใภ้ ของนายล้อม ศักดิ์หวาน อายุ 63 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุไฟปริศนา สอบปากคำเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แยกสอบสวน เพื่อหารายละเอียดในทุกด้าน โดยไม่ได้แจ้งข้อหาบุคคลทั้งสองแต่อย่างใด

 พ.ต.อ.เคียงศักดิ์ วรรณบูลย์ ผกก.สภ.ตะโหมด จ.พัทลุง กล่าวว่า การสอบสวนปากคำดังกล่าว เพื่อเป็นการสอบหารายละเอียดเพิ่มเติมทั้งประวัติส่วนตัวของทั้งคู่และรายละเอียด ในประเด็นที่สงสัยต่างๆ เพื่อบันทึกไว้เป็นข้อมูลพยานหลักฐาน และยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด เนื่องจากเจ้าของบ้านผู้เสียหายโดยตรง ไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับใคร

 ส่วนบรรยากาศที่บ้านใน ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ซึ่งเป็นบ้านหลังเกิดเหตุไฟปริศนา ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ม.ทักษิณสงขลาได้ถอนการติดตั้งกล้องวงจรปิดออกจากพื้นที่ทั้งหมด หลังติดตั้งกล้อง 24 ชั่วโมง แต่ไม่มีเหตุไฟปริศนาเกิดขึ้น ในขณะที่บริเวณบ้านยังคงมีเพื่อนบ้านส่วนหนึ่ง เดินทางไปให้กำลังใจเจ้าของบ้านและสมาชิกในครอบครัว และล่าสุดขณะนี้ก็ยังไม่มีการเกิดไฟปริศนาขึ้นที่บ้านหลังดังกล่าวแต่อย่างใด

ที่มา : ข่าวสด
Share on Google Plus

About Unknown

    Blogger Comment
    Facebook Comment

0 ความคิดเห็น: