วันที่ 16 เม.ย. บีบีซีรายงานว่า กลุ่มสิทธิมนุษยชน รวมถึงองค์กรนิรโทษกรรมสากล แถลงตำหนิซาอุดีอาระเบีย กรณีประหารชีวิต น.ส.ซิตี ไซนับ แม่บ้านชาวอินโดนีเซีย ด้วยการตัดศีรษะเมื่อ 14 เม.ย.2558 ตามความผิดที่สังหารนายจ้างหญิงเมื่อปี 2542 ทั้งที่เป็นคดีน่าสงสัย เนื่องจากผู้ต้องโทษมีแนวโน้มป่วยทางจิต และอาจป้องกันตัวจากการถูกทารุณ
เมื่อวันที่ 15 เม.ย. กระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซียเรียกพบนาย มุสตาฟา อัล-มูบารัก ทูตซาอุดีอาระเบียประจำอินโดนีเซีย เพื่อให้ชี้แจงกรณีทางการซาอุดีอาระเบียกลับไม่แจ้งต่อสถานกงสุลอินโดนีเซียและครอบครัวก่อนว่าจะประหาร ขณะที่ฝ่ายซาอุฯ เผยว่า ประหลาดใจที่ถูกเรียกพบ แต่จะไปดูให้ว่ามีอะไรบกพร่องหรือไม่
ด้านกระทรวงมหาดไทยซาอุดีอาระเบีย แถลงว่า การประหารเลื่อนมานานเกิน 15 ปี จนลูกคนสุดท้องของนายจ้างโตพอที่จะตัดสินใจว่าจะยกโทษหรือให้ดำเนินการประหารชีวิตผู้ต้องหา
ในคดีนี้ ศาลเมืองเมดินาพิพากษาว่า น.ส.ไซนับมีความผิดจริงในข้อหาใช้มีดแทงนางนูรา อัล-โมโรเบ นายจ้าง จนถึงแก่ชีวิต เมื่อปี 2542 โดยก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย จะขอให้ซาอุฯ เว้นโทษประหาร
องค์กรดูแลผู้อพยพ ไมแกรนต์ แคร์ ระบุว่า น.ส.ไซนับป้องกันตัวจากนายจ้างที่ทำร้ายเธอ เพราะก่อนหน้านั้น หญิงสาวส่งจดหมายร้องเรียนว่า นายจ้างหญิงและลูกชายนายจ้างทารุณเธอ อีกทั้งตลอดกระบวนการสอบสวนของตำรวจ ไม่มีตัวแทนจากกงสุลอยู่ด้วย
ที่มา: ข่าวสด
Blogger Comment
Facebook Comment